ชายหญิงคู่หนึ่ง

 
   
   
 

      ชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังมีความรักให้กันอย่างสุดซึ้ง ในทุกๆ วันก่อนจะหลับตานอน ทั้งคู่จะนึกถึงกันทุกครั้ง และขอให้อีกฝ่ายฝันดี วันเวลาผ่านไป ความรักของทั้งคู่ก็ไม่เคยน้อยลง กับเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั้งวันหนึ่งฝ่ายชายได้ยื่นแหวนเพื่อขอแต่งงานกับฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงรู้สึกดีใจมากจนพูดอะไรไม่ออก เธอตอบตกลง สองคนได้แต่งงานกันตามความปรารถนา

 
     
 

      หลังจากแต่งงานได้ปีกว่า ฝ่ายหญิงเริ่มมีพฤติกรรมแปลกออกไปจากเดิม เธอเริ่มไม่ค่อยทำงานบ้านและไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่บ้านสักเท่าไหร่ ในช่วงวันหยุดเธอก็จะออกจากบ้านไปโดยไม่เอ่ยสักคำว่าจะไปที่ไหน จนทำให้ฝ่ายชายเริ่มไม่สบายใจ เขาคิดอยู่เสมอว่าตัวเองได้ทำผิดอะไรไปบ้างไหม แต่เขาไม่เคยคิดโกรธภรรยาของเขาเลย ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เขาเริ่มเอาใจภรรยามากขึ้นไปกว่าเดิม เขาทำงานทุกอย่างในบ้านโดยไม่ปริปากบ่น ทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกถึงความรักที่สามีของตนมีต่อตัวเองได้อย่างหน้ามหัศจรรย์ ฝ่ายชายพยายามทุกอย่างเพื่อให้ฝ่ายหญิงพึงพอใจและมีความสุขมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขาได้ซื้อที่ดินด้านหลังบ้านต่อออกไปเพื่อทำเป็นสวนปลูกดอกไม้ที่ภรรยาชอบ ทุกๆ อย่างที่เขารู้ว่าภรรยาสนใจ เขาจะหามาให้โดยไม่มีบ่ายเบี่ยง แต่ภรรยาของเขา กลับไม่เปลี่ยนพฤติกรรมใดๆ เลย

 
     
 

      อยู่มาวันหนึ่งเมื่อภรรยากำลังจะเดินออกจากบ้าน เธอได้เหลียวไปเห็นสามีนอนฟุบอยู่ในสวน เธอวิ่งมาหาเขา สักพักรถพยาบาลที่เธอเรียกก็มา เธอกุมมือสามีไว้แน่น สักพักสามีเธอก็ลืมตาขึ้น หันมามองภรรยาอย่างห่วงใย และเริ่มเอ่ยกับภรรยาว่า

 
     
 

      ที่รักผมรักคุณ ผมรู้ดีว่าผมอาจมีเวลาอีกไม่นาน ที่เราสองคนจะได้เห็นกันและกันในยามมีชีวิตอยู่ แต่ผมอยากบอกคุณว่า ผมรักคุณมาก อยากอยู่กับคุณ อยากคอยดูแลคุณ อยากทำทุกอย่างให้คุณมีความสุข ถ้าผมมีเวลามากกว่านี้ก็คงดี ผมคงได้ทำทุกอย่างที่ผมอยากทำให้กับคุณ แต่เวลาของผมคงเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว เท่าที่ผมทำได้ในตอนนี้ คือผมอยากบอกรักคุณจนลมหายใจสุดท้าย ที่รัก ผมอยากใส่เสื้อตัวโปรดที่คุณซื้อให้ ในวันที่ผมหมดลมหายใจ คุณทำให้ผมได้ไหม น้ำตาภรรยาเอ่อล้นออกมาจนกลั้นไม่อยู่ เธอเอ่ยเพียงคำสั้นๆ เพื่อบอกกับสามีไปว่า ฉันรักคุณ ฉันจะรักคุณตลอดไป แล้วสามีเธอก็สลบไปอีกครั้ง

 
     
 

      สองวันต่อมา ฝ่ายชายได้สติ ลืมตาขึ้นในห้องพักผู้ป่วย เขาดีใจมากที่เขาได้มีชีวิตอยู่ต่อและยังคงได้เห็นหน้าภรรยาของเขาอีกครั้ง เขามองออกไปรอบห้อง แต่ไม่พบใคร เวลาผ่านไปราว 2 อาทิตย์ ทั้งญาติและเพื่อนๆ มาเยี่ยมเขาอย่างไม่ขาดสาย ยกเว้นภรรยาของเขา ซึ่งไม่ว่าจะถามใครๆ ก็ไม่เคยได้คำตอบเลยสักครั้ง หลังจากที่เขาเริ่มแข็งแรงมากแล้ว ก็ถึงเวลาได้กลับบ้าน เขารีบออกจากโรงพยาบาลเพื่อที่จะได้ไปพบภรรยาและถามไถ่ให้รู้เรื่องราว เมื่อกลับมาถึงหน้าบ้าน ประตูโดนล็อกอยู่ด้านนอก เขาเสียใจมาก และเริ่มรู้สึกโกรธภรรยาขึ้นมาทันที บนห้องนอนไม่มีแม้แต่ร่องรอยการปัดกวาดเช็ดถู ฝ่ายชายรู้สึกโกรธขึ้นมากกว่าเดิม เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า และหยิบเสื้อตัวโปรดออกมาจากตู้ ในกระเป๋าเสื้อนั้นมีกระดาษอยู่สองแผ่นพับไว้ เขาเริ่มรู้สึกแปลกใจ จึงรีบเปิดอ่านดู

 
     
 

      ที่รักค่ะ เมื่อคุณเปิดกระดาษใบนี้อ่าน หวังว่าคุณคงหายดีแล้ว และคุณคงพร้อมที่จะยอมรับความจริงได้ ที่รักค่ะ คุณทำอะไรชอบมีพิรุธ ฉันเห็นคุณชอบหยิบเสื้อตัวโปรดมาลูบแถวๆกระเป๋าเสื้อ ฉันจึงแอบดูบ้างว่ามันมีอะไร ตอนแรกฉันคิดว่าคงเป็นเงินที่คุณแอบเอาไว้ แต่มันคือกระดาษใบนั้น ใบที่ทำให้ฉันได้รู้ความเป็นจริง ว่าคุณรักฉันมากกว่าที่ฉันคิดมากแค่ไหน ยิ่งโดยเฉพาะข้อความนี้ “วันนี้ผมไปตรวจร่างกายว่าพร้อมจะมีลูกกับคุณได้ไหม แต่หมอกลับทำเอาผมผิดหวังอย่างแรง เมื่อรู้ผลตรวจว่า ผมเป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรงและต้องเปลี่ยนหัวใจแต่ต้องรอคนมาบริจาคเท่านั้น คนแรกที่ผมนึกถึงคือคุณ ผมกลัวขึ้นมาจับใจ ว่าอาจมีสักวันที่ผมหลับไปและไม่มีวันตื่นขึ้นมาเจอหน้าคุณอีก ผมอดห่วงคุณไม่ไหว และผมก็ได้สัญญากับตัวเองไว้ว่าผมจะทำทุกอย่างเพื่อคุณตราบเท่าที่ผมยังมีลมหายใจ” พออ่านมาถึงตรงนี้ทีไรกระดาษใบนี้ก็ถึงกับเปียกไปด้วยน้ำตาทุกครั้ง แต่มันทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป แต่ไม่ไช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อคุณ

 
     
 

      ที่รัก ฉันมีอะไรอยากบอกคุณบ้าง 14 ก.พ. 1 ปีกับอีก 60 วัน ที่เราได้แต่งงานกันมา วันนั้นฉันนัดคุณหมอไว้เพื่อไปตรวจร่างกายก่อนการมีบุตร แล้วคุณหมอก็แจ้งให้ฉันทราบว่า ฉันเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ต้องทำการรักษาโดยทันที แต่ฉันขอเลือกที่จะเก็บเวลาไว้เพื่อที่จะอยู่กับคุณ ในทุกวันที่ผ่านไปร่างกายก็เริ่มอ่อนแอ หมดเรี่ยวหมดแรง ทุกๆ วันเสาร์อาทิตย์หมอคอยนัดให้ไปตรวจและให้น้ำเกลือ ฉันแทบไม่อยากมีลมหายใจต่อไป แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะบอกคุณ เพราะกลัวคุณจะเสียใจ จนกระทั้งฉันได้เจอกระดาษใบนั้น มันทำให้ฉันมีกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป ถึงแม้มันจะเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน เมื่อฉันคิดถึงคุณ ฉันก็จะมั่นใจที่จะอดทนเพื่อคนที่ฉันรัก จนกว่าวันนั้นจะมาถึง ฉันแข็งแรงพอไหมค่ะ ก่อนจบฉันขอใช้ข้อความจากกระดาษใบนั้นของคุณเป็นประโยคสุดท้ายในกระดาษใบนี้

 
     
 

      “ไม่ว่าในยามมีชีวิตหรือในยามหมดลมหายใจ ไม่ว่าในยามสุขหรือในยามทุกข์ ความรักจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คุณต้องมีชีวิตต่อไป เพื่อมองโลกกว้างๆ แทนกัน เพื่อรักษาหัวใจอีกดวงที่ยังคงอยู่กับคุณตราบนิรันดร์ รักคุณที่สุดในชีวิต”

 
     
 

      กระดาษใบที่สองที่พับอยู่ร่วมกัน เป็นกระดาษซีล็อก มีข้อความสั้นๆ ว่า
      ขออุทิศอวัยวะ หัวใจ ให้แก่ นายประชา แซ่ดิ

 
     
 

      ความรักสำหรับผู้ชายคือความห่วงใยแม้ยามมีชีวิตอยู่หรือยามไม่มีชีวิตแล้ว
      แต่ความรักสำหรับผู้หญิง คือการให้ทั้งหัวใจและร่างกายแด่คนที่เธอรัก

 
     
 

บทความดีๆ จาก oHoMyLife.com

 
     
  ส่งให้เพื่อน     
  อีเมลเพื่อน :    อีเมลผู้ส่ง :