พระธาตุอินทร์แขวน พม่า

หลายต่อหลายคน ที่มา เที่ยว พม่า คงไม่อยากพลาดกับ พระธาตุอินทร์แขวน ที่เป็น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่สักการะมากที่สุด ของชาวพม่า มีตำนานเล่าขานกันมากมาย แต่เท่าที่รู้ๆ หากใครได้มากราบไหว้สักครั้ง จะพบกับความโชคดีที่ได้มาเยือน

นั่งรถที่ขับได้ไม่เกิน 60 กม./ชม. ไกด์เลยแวะข้างทาง ให้เราได้พักผ่อนและเข้าห้องน้ำกันสะหน่อย ร้านข้างทางมีน้ำปั่นขายด้วย

หุหุ ตู้แช่น้ำ เหมือนบ้านเราเลย และน้ำที่แช่อยู่ ก็เหมือนของบ้านเราไม่มีผิด 555 ไม่เหมือนก็แค่ชื่อ

แล้วไกด์ก็พาเรามาต่อรถขึ้นพระธาตุกันที่นี่ เห็นรถยัง 5555 เริ่มหวาดๆ เพราะขึ้นเขาด้วย เรียกที่นี่ว่า คิมปูนแค้มป์ หรือ เชิงเขาไจ้เที่ยว

ที่นั่งนิ่มมากๆ เป็นไม้มาวางพลาดเอาไว้ โฮ้ๆ เท่าที่เห็น ถ้าเป็นคนพม่าตัวเล็กๆ นั่งกันแทบไม่เห็นเลยว่าที่นั่งเป็นงัย เพราะมันแน่นไปหมด 555

หลังจากที่นั่งรถ เอาไส้มากองรวมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ยังต้อง นั่งเสลี่ยง ขึ้นไปอีก อิอิ แต่ใครจะเดินขึ้นไปเองก็ได้ ไกลแค่หมาหอน 555

นั่งเสลี่ยง คนละ 800 บาทเหมาทั้งขึ้นลง ขอบอกว่า ชาวบ้านชอบให้เรานั่งมากๆ เขาจะได้มีรายได้ แต่ที่รู้ๆ ว่าจะขึ้นไปถึง เห็นเหงื่อเป็นเม็ดๆ แล้ว ต้องแถมทริปให้เขาอีกอะ

ทางขึ้นมีจุดที่ลาดชัน เรานั่งอยู่ก็เอาใจช่วยตลอดเวลา อิอิ จะตกไหมตู 555 ข้างทางจะมีของขายตลอด แต่คงไม่มีโอกาสได้ไปซื้อหรอก เพราะเราไม่ได้เดินขึ้นลงเอง หุหุ

เกือบถึงแล้ว หลังจากหยุดพักไปแฮะๆ หลายรอบ อิอิ นี่ก็เป็นที่พัก Golden Rock Hotel ก่อนถึงเชิงเขา ห่างจากยอดพระธาตุพอสมควร แต่เราไม่ได้พักกันที่นี่ มุ่งหน้าไปต่อ เอิ้กๆ

ที่นี่เลย โรงแรมไจ้โท อยู่ใกล้ พระธาตุอินทร์แขวน มากที่สุด ดีที่สุดของบนนี้แล้ว หุหุ

ออกมามองวิว ตรงระเบียง จะเป็น พระธาตุอินทร์แขวน แบบชัดๆ

มองลงไปเห็นภูเขาอยู่ต่ำกว่าเราอีก 555 วิวสวยสะไม่มี แถมอากาศก็เย็นสบายด้วย เหมือนติดแอร์ตลอดเวลา อิอิ

วิวภูเขา อีกด้านนึง ผืนป่ายังเขียวขจี ไม่มีโล้นเลยแหละ อิอิ สดชื่น สดชื่น

อากาศดีๆ อย่างนี้ เหมาะกับการนั่งสมาธิเป็นอย่างมาก เพราะสงบเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ

คราวนี้มาดูที่พักกันบ้าง ก็สะอาดดี แถมไม่ต้องติดแอร์ด้วย เพราะยิ่งดึกก็ยิ่งเย็น

ห้องน้ำก็สบายๆ สะอาดดี น้ำก็ไหลแรงดี อิอิ แต่ขอบอกว่า อาบน้ำเร็วๆ หน่อยก็ดีนะจ๊ะ เพราะไฟจะดับกันเป็นช่วงๆ เพราะที่นี่ ปั่นไฟใช้กันทั้งหมด ทางที่ดีพกไฟฉายไปด้วยจะดีมาก

ได้เวลาเดินไป สักการะ พระธาตุอินทร์แขวน กันแล้ว ข้างทางก็จะมีของขาย หน้าตาแปลกๆ อย่างที่เห็น เหมือนถั่วทอด อิอิ ถุงละ 10 บาท หรือ 500 จ๊าต ก็ได้ถุงใหญ่เลยหุหุ

ค่อยๆ เดินขึ้นไม่ต้องรีบ ด้านข้างจะเป็นองค์ พระธาตุอินทร์แขวน จำลอง มาสร้างไว้ให้สักการะกันด้วย

200 จ๊าต เป็นค่าทองที่ไว้ปิดองค์พระธาตุ และจะได้รูปเป็นที่ระลึกมาด้วย 1 ใบ

ผู้ชายเท่านั้นที่จะเป็นคนเข้าไปปิดทองได้ ห้ามผู้หญิงเข้า จะมีคนตรวจอยู่ด้านหน้าเลย แต่ถ้าผู้หญิงคนไหนต้องการปิดทอง ก็ฝากผู้ชายด้านหน้าให้เข้าไปปิดให้ได้ ด้านหน้าพระธาตุจะมีคนมานั่งสมาธิกันเยอะมาก ต้องฝ่าด่านคนเข้าไปกันสักหน่อย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงคนขึ้นมาไหว้พระธาตุกัน ประมาณ 1 ทุ่มเป็นต้นไปจนถึงเวลาประมาณ 3 ทุ่มตรง คนก็จะเริ่มน้อยลง เพราะทางเข้าไปปิดทองพระธาตุจะปิด

พอเราได้สักการะพระธาตุกันแล้ว เราก็มากราบ เทพทันใจ กันทางด้านนี้ อยู่ติดกับเพราะธาตุเลย

ด้านข้างจะมีผ้าแพรให้เราซื้อและแต่งตัวเทพทันใจ หรือเรียกว่า แต่งตัวเทวดา ซื้อแล้วก็ยกไปให้คนที่ดูแลข้างบน แล้วก็เอาเงินหมุนเป็นกลมๆ ไปเสียบไว้ ถ้าเป็นผู้ชาย จะได้ขึ้นไปเอานิ้วท่านจิ่มที่หน้าฝากได้เลย

ตรงนี้เป็นลูกไว้เสี่ยงทาย ขอท่านเทพทันใจ ถ้าได้ก็ขอให้ยกขึ้นแล้วเบาเหมือนขนนก หุหุ ไปยกมาแล้ว เบาเหมือนขนนกจริงๆ ด้วย

ชาวพม่าจะเรียกเทพเทวดาต่างๆ ว่า นัท ทางลงจะมีห้องข้างๆ ไว้ให้ชาวพม่าที่ขึ้นมาสักการะได้มานั่งสมาธิกัน ส่วนตรงนี้ เป็นพระนางที่มีเรื่องเล่าขานกันว่า ทรงอยากมากราบพระธาตุสักครั้ง ก็เสด็จมา มาถึงก็เจอโจร แต่เห็นว่าใกล้ถึงพระธาตุแล้ว จึงรีบวิ่งเพื่อให้ถึงพระธาตุ แต่ด้วยความที่เหน็ดเหนื่อยมาก เพราะการขึ้นพระธาตุสมัยก่อนต้องขึ้นกันเป็นเดือนๆ จึงหกล้ม และกำลังจะเสียชีวิต จึงอธิฐานว่า ขอให้นางได้อยู่ตรงใกล้พระธาตุอย่างนี้ตลอดไป ชาวบ้านพากันจะเคลื่อนย้ายศพ แต่ไม่สำเร็จ จึงสร้างศาลาให้นางไว้ตรงนี้

เล่าขานกันว่า ใครที่เจ็บปวดตรงไหน ให้เข้าไปลูบตัวพระนางที่ตรงนั้น แล้วความเจ็บปวดจะหายไป เลยแย่งกันลูบใหญ่เลย หุหุ

ไกด์บอกว่า การมาไหว้ พระธาตุอินทร์แขวน ต้องมาถึง 3 ครั้งด้วยกัน พออาบน้ำทานข้าวเรียบร้อย มองนาฬิกาแล้วปาเข้าไปเกือบๆ เที่ยงคืน พากันเดินหนาวสั่นขึ้นพระธาตุอีกรอบ (แนะนำให้เอาเสื้อกันหนาวติดมาด้วย) ตอนนี้ไม่มีคนแล้ว เพราะตรงพระธาตุปิด เลยได้ภาพงามๆ มาแบบนี้ อิอิ

ตรงนี้อีกมุมนึง ไกด์บอกว่า สมัยก่อนตัวพระธาตุลอยจนเอาไก่รอดผ่านได้ แต่พอมาถึงสมัยนี้ คนทำบาปทำกรรมกันมากขึ้น และไม่กินเจ ทำให้จากที่ไก่เคยรอดได้ ช่องก็เล็กลงๆ ไปเรื่อยๆ

เลยเดินลงไปข้างล่าง ขอถ่ายช่องตรงที่พระธาตุตั้งอยู่เอาไว้สะหน่อย เห็นคนที่เข้าไปบอกว่าลองโยกดู ก็โยกได้ หุหุ ก็เป็นเรื่องเหลือเชื่ออีกอย่างนึง คงเหมือนเขาเพชรกูดบ้านเรา

คนเริ่มน้อยแล้ว แต่เห็นมีบางคนมานอนอยู่ด้านบนเลย แต่ตอนนี้เริ่มฟันขบกันแล้ว เนื่องจากมันหนาว 555 นี่เลยดีกว่า เหมือนขนมเบื้องบ้านเรา แผ่นใหญ่ๆ ที่เห็นเนี้ย 200 จ๊าต แผ่นใหญ่มาก และที่สำคัญ อร่อยมากอะ กรอบหวานนิดๆ มีกลิ่นหอมๆ ใครมาพม่า ก็มาลองกินกันดู หุหุ

แล้วนี่ก็เมนูแนะนำ มาแล้วก็ขอลองสะหน่อย มันจะมีข้าวเหนียวดำกับข้าวเหนียวสีต่างๆ แล้วก็ให้เราเลือกว่าจะกินกับอะไร ดูไปดูมามันเหมือน ข้าวเหนียวหน้ากุ้ง หน้าปลา บ้านเรานี่เอง แต่ของเราห่อแล้ว ใส่ไส้เรียบร้อย แต่ของเขา เราเลือกได้ หุหุ ไม่รู้ว่าจะพูดกันยังงัย ก็เลยได้แต่ชี้ว่าเอาโน้นเอานี้ ได้มาถุงน้อยๆ 200 จ๊าตอีกเช่นเคย ถูกเน้อ ลองหยิบเข้าปาก เค็มๆ อิอิ

ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ตอน ตี 5 อาบน้ำอาบท่าเสร็จ ก็รีบขึ้นมาอีกรอบ ครบแล้ว 3 รอบ ภาพพระธาตุที่ได้มา ไม่เหมือนกันเลย ดีจัง เอิ้กๆ เพราะตอนเช้า หนาวกว่าตอนกลางคืนอีก หุหุ เกิดสั่นสะเทือน หุหุ เช้านี้ ใครอยาก ตักบาตรพระธาตุ ก็มาซื้อของตักบาตรบนพระธาตุกันได้ จะมีขาย ชุดละ 500 จ๊าต แล้วก็เอาไปวางตรงหน้าพระธาตุ หากใครอยากมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็ซื้อระฆังไปถวายพระธาตุ หรือใครอยากรุ่งเรือง ก็ให้ซื้อสปอร์ทไลท์ถวายพระธาตุได้ ซื้อได้จากบนพระธาตุเลยนะจ๊ะ เพราะมีขาย แล้วเขาจะบอกว่าให้เราไปวางไว้ที่ไหน จะมีเจ้าหน้าที่พาไปวางถวายเลย

เก็บภาพยามเช้าบนพระธาตุมาฝากกัน หมอกปกคลุมสะแทบมองไม่เห็น หนาวสุดๆ ทั้งๆ ที่มันเป็นหน้าร้อน หุหุ

อีกภาพ หมอกลงจนแทบเดินชนกัน ไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อนเลย เยี่ยมๆ

ตบท้ายด้วยรูป พระธาตุอินทร์แขวน ยามเช้า มาครั้งนี้ รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธ์และความเรื่อมใส ที่ชาวพม่า ยังมีต่อพระพุทธศาสนา อย่างเหนี่ยวแน่นจริงๆ แต่ที่รู้ๆ อยากมาอีกหลายๆ ครั้งเลย หุหุ